Learning Log 14
นอกห้องเรียน
การเรียนรู้นอกห้องเรียนครั้งนี้
ดิฉันได้เรียนรู้โดยการเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการ
ซึ่งจะเป็นการเรียนรู้ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี ที่ 29 ตุลาคม 2558 โดยจะเป็นการเรียนรู้ภาษาเพื่อการสื่อสารและกิจกรรม
โดย ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร
ในการสอนภาษาตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารนั้นเป็นการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้
ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของผู้เรียนเป็นหลัก
มีการจัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอนตามกระบวนการใช้ความคิดของผู้เรียน
โดยเริ่มจากการฟังไปสู่การอ่าน การจับใจความสำคัญ การทำความเข้าใจ
การจดจำและนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้
เนื้อหาและสิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้ในช่วงบ่ายนี้มีดังต่อไปนี้
ในการเรียนรู้ช่วงบ่ายนี้ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสอนในศตวรรษที่ 21 และกลวิธีการเรียนการสอนในปัจจุบัน
ซึ่งจะเป็นแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา
ดิฉันได้เรียนรู้ในประเด็นต่อไปนี้ คือ ประเด็นแรก
จะเป็นวิธีการสอนแบบไวยากรณ์และแปล
จะเป็นการเน้นให้ผู้เรียนรู้กฎของไวยากรณ์และแปลประโยคหรือบทความจากภาษาแม่เป็นภาษาเป้าหมายหรือแปลจากภาษาเป้หมายเป็นภาษาแม่ได้ถูกต้อง
และที่สำคัญเราต้องจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องอีกด้วย
ในบางครั้งเรามักจะเห็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษในประเทศไทยที่ใช้ไม่ถูกต้องและนำไปสู่การแปลที่ผิดๆ
เช่น Xerox เรามักจะใช้ว่า ถ่ายเอกสาร แต่คำที่ถูกต้องคือ photocopy
และ mama คำที่ถูกต้องคือ instant
noodles บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นต้น
และสิ่งที่สำคัญของการแปลอีกอย่างหนึ่งก็คือ
การจำสำนวนภาษาอังกฤษเพราะบางครั้งเราไม่รู้ว่ามันเป็นสำนวนเลยแปลคำศัพท์ที่ตรงตามตัวเลย
ซึ่งไม่ถูกต้อง เช่น It’s daylight
robbery. ถ้าแปลตรงตัวคือ นี่คือการปล้นตอนกลางวัน
แต่ประโยคนี้เป็นสำนวนที่แปลว่า แพงสุดๆ เลย (เหมือนถูกปล้น)
ประเด็นต่อมาของแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษาคือ
วิธีสอนแบบตรงซึ่งจะเป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติ โดยให้การเรียนภาษาที่สองหรือภาษาเป้าหมายเกิดขึ้นเหมือนกับการเรียนภาษาแม่
ใช้ทักษะการพูดเป็นวิธีการสอน
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีการแปลซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการสอนภาษาจากวิธีการสอนแบบเน้นไวยากรณ์
และการแปลการสอนวิธีนี้เน้นที่การฟังและพูดโดยเน้นการใช้สื่อของจริง ตัวอย่างเช่น
การพูดคุยกันในห้องแชทของโซเซี่ยลเน็ตเวิล์ค เช่น A: Honey , your gandma
has just died LoL. B:Mom ,Do you know what LOL means ? A:
Yes it is ! B: Google it mom, google it. การเรียนรู้ด้วยการพูดคุยทางห้องแชทแบบนี้เป็นการเรียนรู้ที่ใกล้ตัวนักเรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองโดยตรงโดยจะไม่เน้นเรื่องไวยากรณ์และการแปลจะเน้นการพูดมากกว่า
ซึ่งสื่อที่ใช้พูดนั้นเป็นของจริงเป็นเรื่องราวจริงที่ใช้สื่อสารได้จริง
ในประเด็นนี้ดิฉันได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกันในโซเซี่ยลเน็ตเวิล์ค
ในภาษาอินเตอร์เน็ตนั้นจะเป็นการสะกดคำในรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่การสะกดคำตามมาตรฐานเดิม
เช่น ตัวสะกดบางตัวหายไปแต่ยังสามารถออกเสียงได้เหมือนเดิม
มีการเชื่อมคำเข้าด้วยกัน สร้างอักษรใหม่ขึ้นที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำ
เช่น WTF it mean welcome to facebook. จะเกิดสัญลักษณ์ขึ้นใหม่ที่เรียกว่า
Emotioncons จะใช้ตัวอักษร
มีการใส่เครื่องหมายเป็นสัญลักษณ์เพื่อสื่อความหมายบางประการ
มีการใส่คำแทนเสียงหรือเลียนเสียง เช่น หัวเราะ hahaha เสียงสงสัย
huh? เสียงตกใจว่าทำอะไรผิด oops เป็นต้น
มีการใช้ศัพท์เฉพาะในการใช้ศัพท์อินเตอร์เน็ตมีการสะกดผิด เช่น เบย
สะกดผิดจากคำว่าเลย the จากคำว่า the เป็นต้น
ถ้าใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ทั้งหมดแปลว่าต้องการเน้นย้ำ หรือพวกตวาดเสียงดัง เช่น STOP
IT ในการเรียนรู้ภาษาอินเตอร์เน็ตนั้นก็เพื่อที่จะให้เราเท่าทันสื่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและสามารถสื่อสารกันได้ตามสมัยที่พัฒนาอยู่เรื่อยๆ
สำหรับประเด็นสุดท้ายของแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษาคือ
วิธีการสอนแบบฟัง พูด วิธีการสอนแบบฟัง
พูดนั้นมีวัตถุประสงค์ที่จะนำลักษณะนิสัยการพูดภาษาแรกมาใช้ในการเรียนภาษาที่สอง
ในประเทศไทยนั้นพบว่าเด็กไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เนื่องจากทัศนคติของผู้เรียนต่อภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศอื่นๆยังไม่เกิดทัศนคติที่ดีที่ทำให้ผู้เรียนอยากเรียน
โอกาสในการเรียนการสอนของครูและผู้เรียนในการฝึกนั้นยังไม่เพียงพอ
ดังนั้นครูผู้สอนภาษาอังกฤษควรตระหนักและออกแบบบทเรียนเพื่อเอื้อให้ผู้เรียนสามารถนำภาษาอังกฤษไปใช้ได้จริงและผู้เรียนได้ฝึกจากสถานการณ์จริงซึ่งครูนั้นแค่พูดอย่างเดียวคงจะไม่พอ
ครูต้องให้ผู้เรียนเข้าใจในการสื่อสารมากกว่าการออกเสียงให้เหมือนเจ้าของภาษาแต่ความรู้เบื้องต้นทางสัทศาสตร์
ยังคงมีความสำคัญสำหรับผู้สอนเพราะผู้สอนสามารถช่วยแก้ไขการออกเสียงที่ผิดพลาดของผู้เรียนได้
เวลาอ่านออกเสียงท้ายครูก็จะต้องอ่านให้ชัดเจนด้วยต้องอ่านออกเสียงให้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง
ต้องรู้พยัญชนะและสระในภาษาอังกฤษว่าเป็นเสียงใดและอยู่ในตำแหน่งใด
อีกทั้งครูยังต้องรู้การเน้นเสียงระดับคำ word stress และการเน้นเสียงระดับประโยค sentence stress ทำนองของเสียง
Into nation และการหยุด pause
สิ่งเหล่านี้เป็นการพัฒนาการฟังและการพูดของเด็กให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจากการถ่ายทอดความรู้ความสามารถของครูที่มีประสิทธิภาพ
จากการเรียนรู้ในครั้งนี้ที่เกี่ยวกับ
แนวการสอนที่เป็นกฎเกณฑ์ของภาษาซึ่งเป็นการเรียนรู้ในช่วงบ่ายนั้น
ดิฉันได้เรียนรู้ในสามประเด็นของแนวการสอนที่เป็นกฎเกณฑ์ของภาษาคือ
วิธีการสอนแบบไวยากรณ์และแปล วิธีการสอนแบบตรง และวิธีการสอนแบบฟัง พูด
วิธีการสอนดังกล่าวนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งที่จะนำไปเป็นแนวทางในการสอนของดิฉันในการประกอบอาชีพครูในภายภาคหน้าได้เป็นอย่างดี
ซึ่งในการเรียนการสอนดังกล่าวนี้จะมุ่งเน้นความสำคัญของผู้เรียนโดยตรงซึ่งในการเรียนรู้นั้น
ผู้เรียนต้องสามารถเข้าใจและจดจำสิ่งที่ได้เรียนรู้โดยสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงได้
และความรู้ความสามารถของครูนั้นต้องมีประสิทธิภาพและมีความรู้เกี่ยวกับภาษาอย่างลึกซึ้งและมีวิธีการสอนภาษาแบบบูรณาการสอนทั้ง
4 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่านและการเขียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น