วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log 7 นอกห้องเรียน


Learning Log 7
นอกห้องเรียน
                       การเรียนรู้นอกห้องเรียนครั้งนี้ดิฉันได้เรียนรู้และได้พัฒนาทักษะด้านการฟังเขียนและอ่านภาษาอังกฤษ ซึ่งได้เรียนรู้ในหัวข้อ ส่วน 2 ของ 3 : การฝึกทักษะการฟัง เขียนและอ่านภาษาอังกฤษ โดยดิฉันได้ต่อยอดการเรียนรู้จากสัปดาห์ที่แล้วในหัวข้อ ส่วน 1 ของ 3 : การเพิ่มทักษะในการพูด ในการฝึกทักษะภาษาอังกฤษเหล่านี้ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งเพราะในปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่สำคัญมากในประเทศไทยและยังเป็นภาษาสากลที่ใช้กับคนทั่วโลกการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั้นมีทั้งการเรียนการสอนในสถานศึกษาโดยผู้เรียนสามารถนำประสบการณ์ในห้องเรียนไปใช้ได้อีกทั้งยังมีการศึกษานอกห้องเรียนโดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความถนัดและความสนใจของผู้เรียนในการฝึกฝนและการเรียนรู้ที่ดีนั้นจะต้องได้รับการฝึกทักษะทางภาษาทั้ง 4 ด้าน คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อให้การใช้ภาษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการเรียนรู้ของดิฉันในครั้งนี้ ดิฉันได้ฝึกและเรียนรู้เทคนิคการฟัง เขียนและอ่านภาษาอังกฤษดังหัวข้อต่อไปนี้

                       1.ฟังรายการวิทยุที่เป็นภาษาอังกฤษโดยอาจจะฟังจากวิทยุโดยตรงหรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชันวิทยุลงในมือถือเพื่อฝึกการฟังจับใจความภาษาอังกฤษพยายามฝึกฟังรายการเหล่านี้ให้ได้อย่างน้อยประมาณ 30 นาทีต่อวันโดยอาจจะฟังระหว่างที่ออกกำลังกาย เดินทางไปหรือกลับจากที่ทำงานหรือระหว่างที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ได้นอกจากนี้ควรจะพยายามเข้าใจสิ่งที่ฟังไม่ใช่ฟังผ่านๆแม้อาจจะฟังไม่ทันบ้างก็พยายามจับคำหลักหรือวลีหลักๆเพื่อเข้าใจว่ารายการนั้นกำลังพูดถึงอะไรอยู่หากเป็นไปได้ให้ลองจดคำหรือวลีที่แปลไม่ได้แล้วลองค้นความหมายในพจนานุกรมแล้วฟังรายการนั้นๆอีกครั้งเพื่อสังเกตการใช้คำหรือวลีนั้นๆในบริบทต่างๆ
                        2.ฝึกจากการดูหนังหรือรายการทีวีภาษาอังกฤษก็เป็นอีกวิธีที่ทั้งสนุกและช่วยเพิ่มทักษะการฟังได้เลือกหนังหรือรายการทีวีที่ชอบมาซักเรื่องซึ่งจะช่วยให้ไม่เบื่อหน่ายกับการฝึกหากเป็นไปได้ให้พยายามเลือกหนังหรือรายการที่คุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น การ์ตูนหรือหนังชื่อดัง ถ้าพอรู้เรื่องคร่าว ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ดูแล้วจะฟังออกและเข้าใจได้มากขึ้นแต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรจะดูหนังหรือรายการทีวีโดยใช้คำบรรยาย(หรือSubtitles)ที่เป็นภาษาไทยช่วยคำบรรยายเหล่านี้จะเบนความสนใจทำให้คุณไม่ได้สนใจที่จะฟังภาษาอังกฤษให้เข้าใจและจะทำให้การฝึกไม่ได้ผล เพราะมั่วแต่อ่านคำบรรยายหรือ Subtitles เพียงอย่างเดียว
                        3. หาหนังสือหรือนิตยสารภาษาอังกฤษซักเล่มหรือไม่ก็หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษซักฉบับมาอ่านการอ่านเป็นสิ่งจำเป็นในการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆเช่นกันหาสิ่งที่สนใจจริงๆไม่ว่าจะเป็นนิยายภาษาอังกฤษชื่อดังซักเล่ม หนังสือพิมพ์ The New York Times หรือนิตยสารแฟชั่นแล้วก็เริ่มฝึกอ่าน หากสิ่งที่อ่านไม่น่าสนใจโอกาสที่จะหยิบมาฝึกอ่านก็จะน้อยลงและแน่นอนว่าควรพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังอ่านจริงๆไม่ใช่แค่อ่านผ่านๆแต่ควรขีดเส้นหรือจดบันทึกคำหรือวลีที่ไม่เข้าใจแล้วไปค้นความหมายในพจนานุกรมด้วยถ้าอยู่คนเดียวอาจจะลองอ่านออกเสียงด้วยก็ได้เพื่อที่จะได้ฝึกทั้งการอ่านทำความเข้าใจและการฝึกออกเสียงไปพร้อม ๆ กัน
                        4.เขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษนอกจากการอ่านและการฟังแล้ว การเขียนเป็นทักษะอีกอย่างที่ควรฝึกฝนการเขียนนั้นอาจจะเป็นทักษะทางภาษาที่ค่อนข้างยากแต่ทักษะการเขียนก็จำเป็นการเขียนโดยใช้ภาษาอังกฤษจะช่วยให้ได้ไวยากรณ์และการสะกดคำพยายามเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษด้วยประโยคสองสามประโยคทุกๆวันประโยคที่เขียนไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องส่วนตัวอาจจะเขียนเรื่องสภาพอากาศสิ่งที่เพิ่งกินไปตอนเย็นหรือกระทั่งแผนการของวันพรุ่งนี้ถ้าเป็นไปได้ลองให้ฝรั่งเช็คสิ่งที่เขียนดูว่ามีจุดผิดพลาดตรงไหนหรือไม่ เพื่อช่วยให้เข้าใจโครงสร้างการเขียนมากขึ้นและไม่เขียนผิดซ้ำอีกครั้ง
                           5.หาเพื่อนเป็นฝรั่งซักคนแล้วลองเขียนจดหมายหรืออีเมล์ถึงกันดูถ้าภาษาอังกฤษพัฒนาขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้วการลองหาเพื่อนคุยทางจดหมายก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการพัฒนาต่อไปการมีเพื่อนทางจดหมายนอกจากจะได้ฝึกภาษาอังกฤษแล้วยังสร้างความตื่นเต้นที่จะได้รับจดหมายหรืออีเมล์ฉบับถัดไปด้วยเพื่อนของอาจจะเป็นคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกันหรือจะเป็นฝรั่งที่สนใจจะฝึกเขียนภาษาไทยก็ได้เช่นกันหากเพื่อนเป็นคนที่มาจากประเทศอย่างอเมริกา,อังกฤษ,แคนาดา,ไอร์แลนด์,ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์หรือแอฟริกาใต้ อาจจะได้เรียนรู้ประเพณีและวัฒนธรรมเพิ่มเติมอีกด้วย
                           จากการที่ดิฉันได้เรียนรู้การฝึกทักษะการฟัง เขียน และอ่านภาษาอังกฤษครั้งนี้นั้น การฝึกของดิฉันคือ การฝึกทักษะการฟังนั้นดิฉันเลือกฝึกโดยการดูหนังเรื่อง Jurassic World  ซึ่งเป็นหนังที่ดิฉันเคยดูแลแต่มี Subtitles ภาษาไทย แต่ในครั้งนี้ดิฉันดูโดยไม่มี Subtitles ทำให้ดิฉันเข้าใจการฟังมากขึ้น สำหรับการฝึกทักษะการเขียนนั้นดิฉันได้ฝึกเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ เขียนวันละ 2-3 ประโยคโดยเขียนประโยคจากเรื่องส่วนตัว สภาพอากาศในแต่ละวันในการฝึกเขียนไดอารี่ ดิฉันอาจไม่ได้เขียนทุกวันแต่จะพยายามฝึกฝนให้มากกว่านี้ และการฝึกอ่านนั้นดิฉันได้ฝึกโดยการอ่านนิตยสารแฟชั่น โดยเลือกจากความสนใจของตัวเอง เพื่อทำให้สนใจในการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น
                                สำหรับการเรียนรู้นอกห้องเรียนในครั้งนี้ดิฉันได้เรียนรู้เรื่อง การฝึกทักษะการฟัง เขียน และอ่านภาษาอังกฤษ ซึ่งดิฉันได้รู้ถึงเทคนิคในการฝึกทั้ง 5 เทคนิคด้วยกันคือ การฟังรายการวิทยุที่เป็นภาษาอังกฤษ การฝึกจากการดูหนังหรือรายการทีวีภาษาอังกฤษก็เป็นอีกวิธีที่ทั้งสนุกและช่วยเพิ่มทักษะการฟังได้ การหาหนังสือหรือนิตยสารภาษาอังกฤษซักเล่มมาอ่าน การเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ และการหาเพื่อนเป็นฝรั่งซักคนแล้วลองเขียนจดหมายหรืออีเมล์ถึงกันดู ถ้าภาษาอังกฤษคุณพัฒนาขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้ว การลองหาเพื่อนคุยทางจดหมายก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการพัฒนาต่อไป ซึ่งวิธีหรือเทคนิคต่างๆเหล่านี้ จำเป็นอย่างยิ่งในการฝึกฝนทักษะทางภาษาอังกฤษ เราควรตระหนักและให้ความสำคัญในการฝึก เพราะจะช่วยให้เราได้พัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ภาษาของตัวเอง และสามารถนำไปใช้ได้กับสถานการณ์จริง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น