วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log 10 นอกห้องเรียน


Learning Log 10
นอกห้องเรียน
                      การเรียนรู้นอกห้องเรียนในครั้งนี้  ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องการแปลซึ่งได้ศึกษารูปแบบ/ชนิด/ประเภทของการแปล หลักการแปล กระบวนการ/ขั้นตอนการแปล และคุณสมบัติของนักแปลที่ดี ในส่วนของการฝึกทักษะของดิฉันนั้นดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านและการแปลที่ถูกต้อง ในการศึกษาเรื่องการแปลนอกห้องเรียนนี้ ทำให้ดิฉันสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้กับการเรียนในห้องเรียนในวิชาการแปลได้อย่างดี การแปลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจำเป็นต้องถ่ายทอดข้อมูลมาเป็นอีกภาษาหนึ่ง ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่นำมาถ่ายทอดเป็นภาษาต่างๆมากที่สุดในโลกโดยเฉพาะการถ่ายทอดเป็นภาษาไทย   เพราะแหล่งความรู้สมัยใหม่มักเขียนเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลางการสื่อสารต่างๆล้วนให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องศึกษาเรื่องการแปลดังประเด็นต่อไปนี้

Learning Log 9 นอกห้องเรียน


Learning Log 9
นอกห้องเรียน
                      การเรียนรู้นอกห้องเรียนในครั้งนี้ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้และการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งในการฝึกทักษะทั้ง 4 ด้านของดิฉันนี้ ดิฉันก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เกี่ยวการเรียนรู้ในทักษะทั้ง 4 ด้านจะช่วยให้ดิฉันเข้าใจและมีพฤติกรรมในการฝึกฝนทักษะที่ถูกต้อง เพราะในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษซึ่งเป็นวิชาทักษะนั้น เราจะต้องใช้ความมานะพยายาม และความอดทน หลักการศึกษาวิชาภาษาอังกฤษให้ได้ผลนั้นไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะความสำเร็จในการเรียนวิชาภาษา ซึ่งเป็นวิชาทักษะนั้น อาศัยทั้งความเข้าใจและการฝึกฝนทบทวนบ่อย ๆ อยากทราบว่าตนเองยังมีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างน้อย ก็ควรที่จะเพิ่มพูนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษให้มากขึ้น สำหรับการฝึกทักษะของดิฉันและการศึกษาพฤติกรรมในการเรียนรู้ทักษะทั้ง 4 ด้านมีดังต่อไปนี้

Learning Log 9 ในห้องเรียน


Learning Log 9
ในห้องเรียน
                      การเรียนรู้ในห้องเรียนครั้งนี้ ดิฉันได้เรียนรู้เรื่อง การละ adverb clause of time การเรียนรู้ในครั้งนี้เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยศึกษาจากใบงาน เรื่อง adverb clause of time ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ และร่วมกันสรุปภายในกลุ่ม หัวข้อหรือประเด็นที่ได้ศึกษามานั้นมีดังนี้ คือ การสรุปกฎของ adverb clause of time วิธีการลด adverb clause of time ตัวอย่างของ adverb clause of time เป็นอย่างไร adverb clause of time เป็นส่วนหนึ่งของ adverb clause ซึ่ง adverb clause นั้นก็คือ อนุประโยคที่ทำหน้าที่เหมือนคำกริยาวิเศษณ์ตัวหนึ่งที่ใช้ขยายกริยา หรือคุณศัพท์ในประโยคหลัก หรือใช้ขยายประโยคหลักเพียงแสดงถึงวัตถุประสงค์บางประการAdverb Clause จะตามหลังสันธานที่ใช้เชื่อม เพราะอนุประโยคที่ใช้ขยายใจความในประโยคหลัก

Learning Log 8 นอกห้องเรียน


Learning Log 8
นอกห้องเรียน
                   การเรียนรู้นอกห้องเรียนในครั้งนี้ดิฉันได้เรียนรู้เรื่อง ส่วน 3 ของ 3: สิ่งที่ควรทำในการเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งดิฉันได้ต่อยอดการเรียนรู้มาจากสัปดาห์ที่แล้วในหัวข้อเรื่อง ส่วน 1 ของ 3: การเพิ่มทักษะในการพูด และ ส่วน 2 ของ 3: การฝึกทักษะการฟัง เขียนและอ่านภาษาอังกฤษ การเรียนรู้ในครั้งนี้ก็เป็นหัวข้อสุดท้ายของวิธีการเรียนภาษาอังกฤษ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพนั้นต้องไม่จำกัดวงแคบอยู่แต่ในเฉพาะห้องเรียน  แต่การเรียนการสอนจะต้องเสริมด้วยการสร้างระบบและสิ่งแวดล้อมที่สามารถเปิดโอกาสให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาต่างๆ เพิ่มเติมให้มากที่สุดตามความสนใจ ตามระดับความสามารถ และตามความต้องการของผู้เรียน ซึ่งเทคนิคต่างๆในการเรียนภาษาอังกฤษก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้เราได้เรียนรู้ได้เร็วยิ่งขึ้นและเมื่อเราทราบเทคนิคต่างๆแล้ว เราก็ควรทราบถึงสิ่งที่เราควรทำในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษดังประเด็นต่อไปนี้

Learning Log 8 ในห้องเรียน


Learning Log 8
ในห้องเรียน
                     การเรียนรู้ในห้องเรียนครั้งนี้ ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง noun clause การใช้ noun clause อย่างถูกต้องถือเป็นเรื่องสำคัญมากโดยเฉพาะในส่วนของ writing และ speaking เพื่อให้ประโยค noun clause ได้ถูกสื่อสารได้ถูกต้องตามหลักการ สำหรับการเรียนรู้เรื่อง noun clause ในห้องเรียนครั้งนี้ ดิฉันได้เรียนรู้ถึง หน้าที่ของ noun clause ประเภท การวางตำแหน่ง และหลักการใช้ เมื่อได้เรียนรู้เรื่อง noun clause แล้วเราก็ควรทำความเข้าใจและศึกษาเรื่อง noun clause ให้ได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง เพราะ noun clause นั้นทำหน้าที่เสมือนเป็นคำนามในประโยคในชีวิตประจำวัน เราอาจได้ยินหรือใช้ noun clause โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังใช้ noun clause อยู่เลย ดังนั้นเราควรศึกษา noun clause ให้ถูกต้องและเข้าใจหลักการใช้ในประเด็นดังต่อไปนี้

Learning Log 7 นอกห้องเรียน


Learning Log 7
นอกห้องเรียน
                       การเรียนรู้นอกห้องเรียนครั้งนี้ดิฉันได้เรียนรู้และได้พัฒนาทักษะด้านการฟังเขียนและอ่านภาษาอังกฤษ ซึ่งได้เรียนรู้ในหัวข้อ ส่วน 2 ของ 3 : การฝึกทักษะการฟัง เขียนและอ่านภาษาอังกฤษ โดยดิฉันได้ต่อยอดการเรียนรู้จากสัปดาห์ที่แล้วในหัวข้อ ส่วน 1 ของ 3 : การเพิ่มทักษะในการพูด ในการฝึกทักษะภาษาอังกฤษเหล่านี้ถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งเพราะในปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่สำคัญมากในประเทศไทยและยังเป็นภาษาสากลที่ใช้กับคนทั่วโลกการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั้นมีทั้งการเรียนการสอนในสถานศึกษาโดยผู้เรียนสามารถนำประสบการณ์ในห้องเรียนไปใช้ได้อีกทั้งยังมีการศึกษานอกห้องเรียนโดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความถนัดและความสนใจของผู้เรียนในการฝึกฝนและการเรียนรู้ที่ดีนั้นจะต้องได้รับการฝึกทักษะทางภาษาทั้ง 4 ด้าน คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อให้การใช้ภาษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการเรียนรู้ของดิฉันในครั้งนี้ ดิฉันได้ฝึกและเรียนรู้เทคนิคการฟัง เขียนและอ่านภาษาอังกฤษดังหัวข้อต่อไปนี้

Learning Log 7 ในห้องเรียน


Learning Log 7
ในห้องเรียน
                      การเรียนรู้ในห้องเรียนครั้งนี้ดิฉันได้เรียนรู้เรื่อง if-clause ประโยคเงื่อนไข ซึ่งได้เรียนรู้ถึงโครงสร้างและหลักการใช้ประโยค if-clause รวมถึงการสร้างประโยค if-clause ให้สมบูรณ์ว่าเป็นอย่างไรและมีองค์ประกอบอะไรบ้าง หลังจากที่ดิฉันได้เรียนในห้องเรียนแล้วนั้นก็ทำให้ดิฉันเข้าใจว่า conditional หรือที่คนไทยเรียกว่า if-clause นั้นมีประโยชน์ต่อบทสนทนาในภาษาอังกฤษมากมาย ซึ่งเราต้องเข้าใจโครงสร้างและสร้างประโยค if-clause ให้ถูกต้องเพื่อจะได้สื่อสารกันได้ถูกต้องตรงตามหลักการ และในการแปลประโยค if-clause ในภาษาไทยนั้นผู้แปลจะต้องวิเคราะห์ความหมายของประโยคให้ดีว่าเป็นเงื่อนไขแบบใด และเลือกรูปแบบภาษาอังกฤษให้เหมาะสม                                                                                      
                     สิ่งแรกที่เราจำเป็นต้องรู้ในการเรียนประโยค if-clause ก็คือความหมายของมัน สำหรับ if-clause หรือ conditional sentence นั่นคือ ประโยคที่มีข้อความแสดงเงื่อนไข (condition) หรือการสมมติซึ่งประกอบด้วยประโยคเล็ก 2 ประโยครวมกันและเชื่อมด้วย conjunction if ประโยคที่นำหน้าด้วย if จะแสดงเงื่อนไข เราเรียกว่า if-clause และประโยคที่แสดงผลเงื่อนไขนั้นเราเรียกว่า main clause เช่น If I have much money , I will buy a new car. และ I will buy a new car if I have much money. ถ้าฉันมีเงินเยอะฉันจะซื้อรถใหม่ จุดสังเกต ถ้าส่วนที่เป็น if clause ขึ้นต้นประโยคก่อน จะถูกเชื่อมด้วย comma (,) และตามด้วย main clause ถ้าส่วนที่เป็น main clause ขึ้นก่อนไม่ต้องมี comma ให้ตามด้วยส่วนที่เป็น if-clause ได้เลย